หากการใช้สื่อเทคโนโลยียุคดิจิตอล นั้นสามารถช่วยให้เด็กๆเรียนรู้ภาษาได้ง่ายขึ้น และหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรมีการกำหนดขอบเขตการใช้อย่างถูกวิธี เพื่อให้เด็กๆได้รับประโยชน์ และไม่เกิดโทษ

สื่อเทคโนโลยียุคดิจิตอล

สื่อเทคโนโลยียุคดิจิตอล ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การที่เด็กๆสามารถสื่อสารได้สองภาษา หรือมากกว่านั้นคงดีไม่น้อย คุณพ่อคุณแม่หลายคนคำนึงถึงเรื่องนี้ จึงมีสื่อต่างๆมากมายที่ออกมาช่วยให้เด็กๆเรียนรู้ภาษาที่ 2 และ 3 เพิ่มอย่างสนุก และง่ายต่อการเข้าใจมากขึ้น

สื่อที่ดีจะช่วยกระตุ้นการเรียนรู้จะจดจำได้ง่ายมากขึ้น นอกจากนี้ผู้สอนหรือผู้ปกครองก็ยังสนุกไปกับน้องๆพร้อมกันอีกด้วย การเรียนรู้ที่เกิดจากความต้องการของเด็กๆเอง ยิ่งจะช่วยกระตุ้นการอยากรู้อยากเห็น และพัฒนาตัวเองได้อย่างสม่ำเสมอ รวดเร็ว และง่ายต่อการเข้าถึง

การฟัง พูด อ่าน เขียน ได้มากกว่าหนึ่งภาษา ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบที่เด็กจะเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัว มีงานวิจัยหลายต่อหลายชิ้นที่ได้สนับสนุนเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ดีที่สุด ในการพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิด – 8 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงที่สมองพัฒนาเต็มที่ เด็กสามารถเรียนรู้ภาษาได้อย่างรวดเร็ว ดีกว่าเรียนรู้ในวัยผู้ใหญ่ ดังนั้นหลายครอบครัวที่มีเด็กเล็ก จึงเริ่มหันมาสนใจการสอนให้ลูกเรียนรู้ภาษาต่างประเทศมากยิ่งขึ้น

หากการใช้ สื่อเทคโนโลยียุคดิจิตอล นั้นสามารถช่วยให้เด็กๆเรียนรู้ภาษาได้ง่ายขึ้น และหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรมีการกำหนดขอบเขตการใช้อย่างถูกวิธี เพื่อให้เด็กๆได้รับประโยชน์ และไม่เกิดโทษ

1. ช่วงอายุที่เหมาะสมนั้นสำคัญ โดยทั่วไปเด็กที่อายุมากกว่าสองขวบขึ้นไป ที่สามารถดูสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้ซึ่งไม่เกิน  1-2 ชั่วโมงต่อวัน และควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ปกครอง หรือครู เน้นการดูสื่อในเชิงบวกที่ช่วยพัฒนาสมองได้มากกว่าการดูสื่อที่ให้เพียงความสนุกสนาน หรือทางที่ดี ควรจะสลับกันโดยบ่างระยะเวลาให้เหมาะสม

2. เนื้อหาของสื่อ และการจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เนื้อหาของสื่อสำหรับเด็กควรถูกคัดเลือกโดยครู หรือพ่อแม่ ให้เหมาะสมตามวัย และตามความสามารถในการเรียนรู้ด้านภาษาของเด็ก สำหรับเนื้อหาที่แนะนำ อาจเป็นเพลงที่ใช้คำซ้ำง่ายๆ นิทานที่มีคำศัพท์ที่เหมาะสมตามพัฒนาการทางภาษา หนังสือเสริมความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ต่างๆ เช่น  Number 1-10 ,Shape, Color , ABC เป็นต้น

ซึ่งในปัจจุบัน มีหนังสือ ARBOOKS ที่ส่งเสริมด้านสองภาษาจัดทำออกมามากมาย เด็กๆ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมจากการทำกิจกรรมใน Application ที่มีอยู่ในมือถือ หรือ แท็บเล็ต ซึ่งผ่านการคัดกรองแล้วจากผู้ปกครอง

3. การมีปฏิสัมพันธ์ในขณะที่ทำกิจกรรมเป็นสิ่งสำคัญ เด็กเล็กต้องการกำลังใจ การพูดเสริมแนะนำด้วยถ้อยคำที่อบอุ่น เรียนรู้ไปด้วยกันระหว่างครอบครัว หรือภายในกลุ่มที่ทำกิจกรรมร่วมกันในห้องเรียน คำศัพท์ง่ายๆ ที่ผู้ปกครอง หรือครูสามารถเลือกนำมาใช้ได้อย่างกลมกลืนในขณะที่ทำกิจกรรม เช่น

What did you do?

What do you want to watch? 

Let’s Read a book. Open (Close) your book.

Good boy (Girl). 

Can you find red? That’s right.

Cheer up! Take it easy!

Calm down! 

Please let me know.

When is your birthday?

I’m okay, thank you.

How tall are you?

Where do you work?

Nice to meet you.

It was nice meeting you, too. Bye. เป็นต้น

#อาหารสมอง #ภัยร้ายในเด็ก #เด็กติดมือถือ #เด็กติดไอแพดแท็บเล็ต #เด็กติดจอ #เด็กสมาธิสั้น #ลูกสมาธิสั้น #ลูกดื้นโววายไม่นิ่ง #เสริมพัฒนาการเด็กตามวัย #ของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กตามวัย #เด็กชอบ #ของเล่นสำหรับลูกตามวัย #ขายของเล่นออนไลน์ #รีวิวของเล่นเด็ก #แนะนำของเล่นเสริมพัฒนาการเด็ก #Amarinbabykids #ของเล่นเด็ก #toptoys #besttoy #ราคาของเล่นเด็ก #วิธีสอนด็ก  #วิธีสอนเด็ก #สมองเด็ก #เพลงกล่อมเด็กพัฒนาสมอง

Deklen รีวิวผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็ก ติดตามรีวิวผลิตภัณฑ์เด็กและข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อเด็กได้ที่
 FACEBOOK : 
https://www.facebook.com/Deklen2017/
 LINE : @deklenthai
 INSTAGRAM : deklenthai
 WEBSITE : 
https://deklenthai.com/

YOUTUBE CHANNEL : https://www.youtube.com/channel/UCy12E4PqMxYkC1cuNiomvXQ?view_as=subscriber 

รับงานรีวิวของเล่นเสริมพัฒนาการ และผลิตภัณฑ์เด็กทุกชนิดจากผู้ใช้งานจริง ติดต่องานได้ที่ LINE : @deklen

Leave a Reply