#1 มีอัตลักษณ์ของความเป็นแม่
แม้แต่ละคนนั้นมีบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกัน การเลี้ยงลูกของแต่ละบ้านก็แตกต่างกันอยู่แล้ว แม้ว่าพัฒนาการของทารกนั้นอาจจะคล้ายคลึงกันมา แต่ความรู้บางอย่างอาจใช้ได้แค่ครึ่งเดียว อีกครึ่งหนึ่งคือตัวตนของคุณแม่ล้วน ๆ ที่จะเลี้ยงลูกของตัวเอง ของแบบนี้เลียนแบบกันไม่ได้
#2 เบบี๋ก็มีเอกลักษณ์
ทารกแต่ละคนก็มีบุคลิก ลักษณะ พฤติกรรมที่แตกต่างกันไปในแบบที่แม่จะต้องเจอ ถ้าเราเจอลูกของคนอื่นเรียบร้อย เลี้ยงง่าย ดื้อ ซน ฯลฯก็ไม่ได้หมายความว่าลูกจะเป็นเหมือนกันหมด
#3 เวลาผ่านไปเร็วเหมือนติดปีกบิน
เวลาอยู่กับลูกในตอนเล็ก ๆ เหนื่อยก็จริง แต่พอมองเห็นลูกค่อย ๆ โตแล้วก็โหยหาเวลาที่เขายังเด็ก หรือ “พวกเขาจะโตขึ้นก่อนที่คุณแม่จะรู้ตัวซะอีก” ดังนั้นให้เวลากับลูกในช่วงวัยเด็กให้มาก และมีความสุขไปทุกช่วงเวลาอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้กับลูก ๆ เพราะเวลานั้นมีปีกบิน เผลอแป๊บเดียว เด็ก ๆ นั้นก็เติบโตอย่างรวดเร็ว
#4 สิ่งสำคัญมากบางครั้งก็ไม่ต้องเสียเงิน
แน่นอนว่าเงินก็เป็นอีกปัจจัยที่สามารถจ่ายไปกับอะไรได้มากมาย แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความทั้งหมดหากคุณแม่ได้ใช้จ่ายเงินไปกับสิ่งที่ไม่คุ้มค้า เช่น ซื้อรถเข็นที่ดีที่สุด ซื้อชุดเสื้อผ้าสวย ๆ หรือการจัดงานเลี้ยงวันเกิดที่ดีที่สุดให้กับลูกๆ เป็นต้น เพราะหลังจากที่เราจ่ายเงินไปกับสิ่งเหล่านี้ ท้ายที่สุดแล้วเราอาจจะตระหนักได้ว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นตัวกำหนดคุณภาพชีวิตของลูก ๆ และพวกเขาก็ไม่ได้อะไรติดตัวเลย นอกจากความสุขฉาบฉวย มาประหยัดเงินเพื่อเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายในอนาคตและมอบความรักด้วยการใช้เวลาคุณภาพกับลูกดีกว่า
#5 ฟังเสียงรอบข้างให้น้อย ฟังหัวใจตัวเองให้เยอะ
ในเมื่อคุณแม่จำเป็นต้องออกไปทำงานนอกบ้าน? หรือกลายเป็นแม่บ้านอยู่บ้านเลี้ยงลูก? เลี้ยงลูกด้วยนมแม่? พาไปศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือมีพี่เลี้ยงตั้งแต่ลูกแบเบาะ? ฯลฯ ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจทำอะไร เราเชื่อว่านั่นคือเหตุผลที่ไตร่ตรองดีแล้ว หรือหากคนรอบข้างจะตัดสินคุณแม่ไม่ว่าเรื่องอะไร สิ่งที่ดีคือให้มั่นคงเข้าไว้ อย่าไปสนใจเสียงตัดสินต่าง ๆ และอย่าไปตัดสินแม่คนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
#6 การเป็นแม่อาจทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวได้ถ้าเราปล่อยให้มันเป็น
การเลี้ยงลูกในช่วงแรก ๆ อาจทำให้คุณแม่บางคนรู้สึกหดหู่ ซึมเศร้า อาการแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ร้อยละ 20 กับคุณแม่หลังคลอด แม่บางคนมีอาการซึมเศร้าเพียงไม่กี่สัปดาห์ ในขณะที่แม่บางคนอาจนานเป็นปีเลยก็มี คุณแม่สามารถรับมือกับอารมณ์นี้ด้วยความไม่กังวลมากไปเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก ใช้การฝึกหายใจเข้าออกลึก ๆ ช่วยผ่อนคลาย ฟังดนตรีที่ชอบ หรือใช้กลิ่นบำบัด ออกไปหาเพื่อนคุยหรือพูดยคุยกับคุณแม่ที่เลี้ยงลูกที่มีอายุไล่ ๆ กัน หากเลี้ยงลูกเหนื่อยมากไปก็ขอร้องให้คุณพ่อหรือคนใกล้ชิดดูแลลูกแทนบ้างนะคะ
#7 แม่คนที่เพียบพร้อมทุกอย่างนั้นไม่มีจริง
ไม่มีแม่คนไหนสมบูรณ์แบบทุกอย่างในความเป็นจริง แม่แต่ละคนนั้นต่างก็มีข้อบกพร่อง แต่ละคนต้องอดทนกับวิธีรับมือลูกน้อยที่แตกต่างกัน ซึ่งไม่ได้บอกให้คนอื่นได้รู้ในเรื่องเหล่านี้ หากเราเผลอรู้สึกผิดต่อลูก ก็แค่ตั้งสติแล้วเลี้ยงลูกให้ดีขึ้นใหม่
#8 การมีลูกนั้นมีความสุขจริงๆ
แน่นอนว่ามันต้องมีช่วงเวลาที่เครียด เหนื่อย และมันทำให้คุณแม่หัวเราะ ยิ้มได้ รู้สึกผ่อนคลายและมีคสามสุขกับการมีเจ้าตัวน้อยอยู่ข้าง ๆ เช่นเดียวกัน
#9 วันนี้คุณทำหน้าที่ “แม่” ได้เต็มที่แล้ว
หากคุณแม่ได้อ่านมาถึงบรรทัดนี้ เราขอปรบมือรัว ๆ ให้กับคุณแม่ที่มีหัวอกเดียวกัน ได้ผ่านบททดสอบของการเลี้ยงลูกที่แม้แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน แต่ก็เข้าใจถึงความเป็นแม่ได้ดี เพราะเรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับคนเป็น “แม่” ได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่มือใหม่หรือมือเก๋าที่มีประสบการณ์มาแล้ว